เมื่อ Gen X, Y, Z มาทำงานด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เกิดความรู้และอินโนเวชั่นใหม่
เคยคิดและตั้งคำถามมาตลอดว่า ถ้าคนรุ่นพ่อ (Gen X), รุ่นลูก (Gen Y) และรุ่นหลาน (Gen Z) มาทำงานร่วมกัน มันมีความเป็นไปได้ไหม? และจะเกิดอะไรขึ้น?
Gen X คือ วัยผู้ใหญ่ หรือรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ช่วงอายุ 39 – 54 ปี (เกิดใน พ.ศ. 2508-2523) คนในยุคนี้ มีความสนใจและมีการเรียนรู้ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ และอินเตอร์เน็ต มีประสบการณ์ส่วนใหญ่เกิดจากการลงมือทำ การลองผิดลองถูก เป็นผู้ก่อตั้งหรือสร้างรากฐานให้กับครอบครัว ส่วนใหญ่เป็น Gen ที่มีเงินทองมากมาย และมี connection ทางด้านธุรกิจที่เหนียวแน่น
Gen Y คือ วัยทำงาน หรือรุ่นลูก ช่วงอายุ 19-38 ปี (เกิดใน พ.ศ. 2524-2543) คนในยุคนี้ มีสนใจและมีการเรียนรู้ผ่านห้องเรียน ครู อาจารย์ และการถ่ายทอดความรู้จากคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ (Gen X) มาสู่รุ่นลูก (Gen Y) มีความรอบรู้ในทุกด้าน ทั้งเทคโนโลยีสมัยเก่าและสมัยใหม่, ทำงานเป็นขั้นตอนและมีแบบแผน, เข้าใจความแตกต่างและสามารถสื่อสารความต้องการระหว่างคนในแต่ละรุ่นได้ดี และเรียนเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้รวดเร็ว
Gen Z คือ วัยรุ่นยุคใหม่ หรือรุ่นหลาน ช่วงอายุ 4 – 18 ปี (เกิดใน พ.ศ. 2544-ปัจจุบัน) คนในยุคนี้ มีความสนใจและมีเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านอุปกรณ์ดิจิทัล และเทคโนโลยีออนไลน์เป็นสื่อเป็นหลัก, มีความมั่นใจในตัวเองสูง, มีแนวคิดเป็นของตนเอง, สามารถนึกคิดและผลิตอินโนเวชั่นใหม่ๆ ที่ไร้ขีดจำกัดออกมาได้ เกิดสายวิชาชีพใหม่ๆ และสร้างรายได้ ให้ตัวเองได้จำนวนมากเมื่อประสบความสำเร็จ แต่อาจล้มเหลวได้ในเวลาที่รวดเร็วเพราะขาดความรอบคอบในการคิดและวางแผนที่เป็นระบบ
ในปีนี้ทางผู้เขียนได้มีโอกาสทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ใจดีในวงการศึกษาหลายท่าน ซึ่งเป็นคนใน Gen X วัยผู้ใหญ่ หรือรุ่นพ่อ รุ่นแม่ โดยเป็นผู้บริหารจัดการงานและโปรเจคต่างๆ โดยใช้คนใน Gen Y วัยทำงาน หรือรุ่นลูก เป็นผู้ขับเคลื่อนงาน เพื่อให้เกิดระบบงานและโปรแกรมเพื่อให้คนใน Gen Z วัยรุ่นยุคใหม่ หรือรุ่นหลาน เป็นผู้ใช้งาน
จึงได้คำตอบว่า ถ้าหากเราทำงานร่วมกันโดยไม่ต้องไม่ยึดติดและคำนึงถึงเรื่องอายุ, ไม่ยึดติดกับศักดินา ใช้หลักการและเหตุผลเป็นหลักในการทำงานและตัดสินใจร่วมกัน, มีการยอมรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เกิดจากประสบการณ์และวิธีการเรียนรู้ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่นได้แล้วนั้น มันจะทำให้เกิดการหล่อหลอมอย่างลงตัว จนเกิดเป็นองค์ความรู้และอินโนเวชั่นใหม่ๆ ออกมา ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนในทุกรุ่นได้ โดยความรู้และอินโนเวชั่นใหม่ที่เกิดขึ้นนี้จะมีคุณลักษณะเฉพาะตัว คือ คนในทุกรุ่นสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเข้าใจได้ตรงกัน, สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต, อำนวยความสะดวกสำหรับการดำรงชีวิตในปัจจุบัน และเชื่อมโยงไปยังอนาคตได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเสนอหรือใช้งานผ่านเทคโนโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น AI, IOT, Moble App, Web App, E-Book, VDO clip อ่านแล้วหลายคนคงคิดว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริง แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เช่น ระบบสื่อการเรียนรู้และสอนออนไลน์ ที่เนื้อหาโดยส่วนใหญ่เกิดจากคนใน Gen X วัยผู้ใหญ่ หรือรุ่นพ่อ รุ่นแม่ โดยการสร้างสรรค์โปรแกรมและบริหารจัดการโดยคนใน Gen Y วัยทำงาน หรือรุ่นลูก เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ไปสู่คนใน Gen Z วัยรุ่นยุคใหม่ หรือรุ่นหลาน เพื่อการคิดและต่อยอดเป็นอินโนเวชั่นใหม่ๆ สำหรับอนาคต
สรุปง่ายๆ ได้ว่า เมื่อไม่ยึดติดเรื่องอายุ ยอมรับในหลักการและเหตุผล แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน จะทำให้เกิดความรู้และอินโนเวชั่นใหม่ ที่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต อำนวยความสะดวกสำหรับการดำรงชีวิตในปัจจุบัน และเชื่อมโยงไปยังอนาคตได้